สารสนเทศ
วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
อาจารย์ผู้สอน
อาจาร์ผู้สอนอ.ธภัทร ชัยชูโชค หรือ อ.ปาล์ม
เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
เป็นอาจารย์ประจำวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม
รายชื่อนักศึกษา
นักศึกษาคอมพิวเตอร์อุตสาหกรรม 54 B
รายชื่อนักศึกษา รหัส 54570031064 B
อาจารย์ธภัทร ชัยชูดโชค
aj_palm
1.นาย สายัณห์ เพอเกลี้อง
sayan082
2.นาย
ท
ศเทพ
นิติอมรรัตน์
3.นายอรรถพล เกิดกูล
4.นายเอกชาติ ยันตรกิจ
2pm2pm
5.นายอนุรักษ์ เจะเตะ
anurak811
E-commerce
วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
เครือข่ายคอมพิวเตอร์
วันสงกรานต์
วันสงกรานต์ ประวัติวันสงกรานต์ ตำนานสงกรานต์
สงกรานต์
เป็นประเพณีปีใหม่ของประเทศไทย ลาว กัมพูชา พม่า ชนกลุ่มน้อยชาวไตแถบเวียดนามและมณฑลยูนนานของจีน ศรีลังกาและทางตะวันออกของประเทศอินเดีย สงกรานต์เป็นคำสันสกฤต หมายถึงการเคลื่อนย้าย ซึ่งเป็นการอุปมาถึงการเคลื่อนย้ายของการประทับในจักรราศี หรือคือการเคลื่อนขึ้นปีใหม่ในความเชื่อของไทยและบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชาวต่างประเทศเรียกว่า "สงครามน้ำ"
สงกรานต์
เป็นประเพณีเก่าแก่ของไทยซึ่งสืบทอดมาแต่โบราณคู่มากับประเพณีตรุษ จึงมีการเรียกรวมกันว่า ประเพณีตรุษสงกรานต์ หมายถึงประเพณีส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ คำว่าตรุษเป็นภาษาทมิฬ แปลว่าการสิ้นปี
พิธีสงกรานต์
เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในสมาชิกในครอบครัว หรือชุมชนบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนไปสู่สังคมในวงกว้าง และมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนทัศนคติ และความเชื่อไป ในความเชื่อดั้งเดิมใช้สัญลักษณ์เป็นองค์ประกอบหลักในพิธี ได้แก่ การใช้น้ำเป็นตัวแทน แก้กันกับความหมายของฤดูร้อน ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษ ใช้น้ำรดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการขอพรจากผู้ใหญ่ การรำลึกและกตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ในชีวิตสมัยใหม่ของสังคมไทยเกิดประเพณีกลับบ้านในเทศกาลสงกรานต์ นับวันสงกรานต์เป็นวันครอบครัว ในพิธีเดิมมีการสรงน้ำพระที่นำสิริมงคล เพื่อให้เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่มีความสุข
ปัจจุบันมีพัฒนาการและมีแนวโน้มว่าได้มีการเสริม จนคลาดเคลื่อนบิดเบือนไป เกิดการประชาสัมพันธ์ในเชิงการท่องเที่ยวว่าเป็น ‘Water Festival’ เป็นภาพของการใช้น้ำเพื่อแสดงความหมายเพียงประเพณีการเล่นน้ำ
การที่สังคมเปลี่ยนไป
มีการเคลื่อนย้ายที่อยู่เข้าสู่เมืองใหญ่ และถือวันสงกรานต์เป็นวัน "กลับบ้าน" ทำให้การจราจรคับคั่งในช่วงวันก่อนสงกรานต์ วันแรกของเทศกาล และวันสุดท้ายของเทศกาล เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูง นับเป็นปรากฏการณ์ทางสังคม ที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงหลายด้านของสังคม นอกจากนี้ เทศกาลสงกรานต์ยังถูกใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งต่อคนไทย และต่อนักท่องเที่ยวต่างประเทศ
ตำนานนางสงกรานต์
ตามจารึกที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กล่าวตามพระบาลีฝ่ายรามัญว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเศรษฐีคนหนึ่ง รวยทรัพย์แต่อาภัพบุตร ตั้งบ้านอยู่ใกล้กับนักเลงสุราที่มีบุตรสองคน วันหนึ่งนักเลงสุราต่อว่าเศรษฐีจนกระทั่งเศรษฐีน้อยใจ จึงได้บวงสรวงพระอาทิตย์ พระจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐานอยู่กว่าสามปี ก็ไร้วี่แววที่จะมีบุตร อยู่มาวันหนึ่งพอถึงช่วงที่พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ เศรษฐีได้พาบริวารไปยังต้นไทรริมน้ำ พอถึงก็ได้เอาข้าวสารลงล้างในน้ำเจ็ดครั้ง แล้วหุงบูชาอธิษฐานขอบุตรกับรุกขเทวดาในต้นไทรนั้น รุกขเทวดาเห็นใจเศรษฐี จึงเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ ไม่ช้าพระอินทร์ก็มีเมตตาประทานให้เทพบุตรองค์หนึ่งนาม "ธรรมบาล" ลงไปปฏิสนธิในครรภ์ภรรยาเศรษฐี ไม่ช้าก็คลอดออกมา เศรษฐีตั้งชื่อให้กุมารน้อยนี้ว่า ธรรมบาลกุมาร และได้ปลูกปราสาทไว้ใต้ต้นไทรให้กุมารนี้อยู่อาศัย
ต่อมาเมื่อธรรมบาลกุมารโตขึ้น
ก็ได้เรียนรู้ซึ่งภาษานก และเรียนไตรเภทจบเมื่ออายุได้เจ็ดขวบ เขาได้เป็นอาจารย์บอกมงคลต่าง ๆ แก่คนทั้งหลาย อยู่มาวันหนึ่ง ท้าวกบิลพรหม ได้ลงมาถามปัญหากับธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ ถ้าธรรมบาลกุมารตอบได้ก็จะตัดเศียรบูชา แต่ถ้าตอบไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย ท้าวกบิลพรหมถามธรรมบาลกุมารว่า ตอนเช้าศรีอยู่ที่ไหน ตอนเที่ยงศรีอยู่ที่ไหน และตอนค่ำศรีอยู่ที่ไหน ทันใดนั้นธรรมบาลกุมารจึงขอผัดผ่อนกับท้าวกบิลพรหมเป็นเวลา 7 วัน
ทางธรรมบาลกุมารก็พยายามคิดค้นหาคำตอบ ล่วงเข้าวันที่ 6 ธรรมบาลกุมารก็ลงจากปราสาทมานอนอยู่ใต้ต้นตาล เขาคิดว่า ขอตายในที่ลับยังดีกว่าไปตายด้วยอาญาท้าวกบิลพรหม บังเอิญบนต้นไม้มีนกอินทรี 2 ตัวผัวเมียเกาะทำรังอยู่ นางนกอินทรีถามสามีว่า พรุ่งนี้เราจะไปหาอาหารแห่งใด สามีตอบนางนกว่า เราจะไปกินศพธรรมบาลกุมาร ซึ่งท้าวกบิลพรหมจะฆ่าเสีย ด้วยแก้ปัญหาไม่ได้ นางนกจึงถามว่า คำถามที่ท้าวกบิลพรหมถามคืออะไร สามีก็เล่าให้ฟัง ซึ่งนางนกก็ไม่สามารถตอบได้ สามีจึงเฉลยว่า ตอนเช้า ศรีจะอยู่ที่หน้า คนจึงต้องล้างหน้าทุก ๆ เช้า ตอนเที่ยง ศรีจะอยู่ที่อก คนจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก ส่วนตอนเย็น ศรีจะอยู่ที่เท้า คนจึงต้องล้างเท้าก่อนเข้านอน ธรรมบาลกุมารก็ได้ทราบเรื่องที่นกอินทรีคุยกันตลอด จึงจดจำไว้
ครั้นรุ่งขึ้น ท้าวกบิลพรหมก็มาตามสัญญาที่ให้ไว้ทุกประการ ธรรมบาลกุมารจึงนำคำตอบที่ได้ยินจากนกไปตอบกับท้าวกบิลพรหม ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกธิดาทั้งเจ็ดอันเป็นบาทบาจาริกา พระอินทร์มาประชุมพร้อมกัน แล้วบอกว่า เราจะตัดเศียรบูชาธรรมบาลกุมาร ถ้าจะตั้งไว้ยังแผ่นดิน ไฟก็จะไหม้โลก ถ้าจะโยนขึ้นไปบนอากาศ ฝนก็จะแล้ง ถ้าจะทิ้งในมหาสมุทร น้ำก็จะแห้ง จึงให้ธิดาทั้งเจ็ดนำพานมารองรับ แล้วก็ตัดเศียรให้นางทุงษะ ผู้เป็นธิดาองค์โต จากนั้นนางทุงษะ ก็อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมเวียนขวารอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที แล้วเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลี ในเขาไกรลาศ
จากนั้นมาทุก ๆ 1 ปี ธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้ง 7 ก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำหน้าที่อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหม แห่ไปรอบเขาพระสุเมรุ เป็นเวลา 60 นาที แล้วประดิษฐานตามเดิม ในแต่ละปีนางสงกรานต์ แต่ละนางจะทำหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันตามวันมหาสงกรานต์ ดังนี้
1.
ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันมหาสงกรานต์
นางสงกรานต์นาม ทุงษะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราช ภักษาหารอุทุมพร (ผลมะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมาบนหลังครุฑ
2.
ถ้าวันจันทร์เป็นวันมหาสงกรานต์
นางสงกรานต์นาม โคราคะเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ อาภรณ์แก้วมุกดา ภักษาหารเตลัง (น้ำมัน) พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังพยัคฆ์ (เสือ)
3.
ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกรานต์
นางสงกรานต์นาม รากษสเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนู เสด็จมาบนหลังวราหะ (หมู)
4.
ถ้าวันพุธเป็นวันมหาสงกรานต์
นางสงกรานต์นาม มณฑาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปา อาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย พระหัตถ์ขวาทรงเข็ม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังคัทรภะ (ลา)
5.
ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสงกรานต์
นางสงกรานต์นาม กิริณีเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จมาบนหลังคชสาร (ช้าง)
6.
ถ้าวันศุกร์เป็นวันมหาสงกรานต์
นางสงกรานต์นาม กิมิทาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจงกลนี อาภรณ์แก้วบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จมาบนหลังมหิงสา (ควาย)
7.
ถ้าวันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์
นางสงกรานต์นาม มโหธรเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกสามหาว อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จมาบนหลังมยุรา (นกยูง)
สำหรับความเชื่อทางล้านนานั้นจะมีว่า
1. วันอาทิตย์ ชื่อ นางแพงศรี
2. วันจันทร์ ชื่อ นางมโนรา
3. วันอังคาร ชื่อ นางรากษสเทวี
4. วันพุธ ชื่อ นางมันทะ
5. วันพฤหัส ชื่อ นางัญญาเทพ
6. วันศุกร์ ชื่อ นางริญโท
7. วันเสาร์ ชื่อ นางสามาเทวี
เพลง
วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ภาพเครื่อนไหว
วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
เกี่ยวฉัน
ชื่่อ นายผดุงศักดิ์ รัตนะพงค์
ชื่อเล่น วุฒิ
วันเกิด 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 อายุ 21 ปี
ศาสนา พุทธ
สัญชาติ ไทย
เชื้อชาติ ไทย
ความสนใจพิเศษ โปรแกรมต่างๆที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
ชอบกินอาหาร ที่ไม่หวานมาก
สถานภาพการสมรส โสด
อาศัยอยู่กับ
มารดา
สุขภาพ ดี
ที่อยู่ บ้านเลขที่ 28/1 หมู่.1 ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี 94120
เรียนจบมาจาก วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก ปัตตานี
วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555
โปรแกรมช่วยสร้าง PERT และ CPM
การวิเคราะห์ขั้นตอนการดำเนินงาน
ระบบงานที่ศึกษา คือ โปรแกรมช่วยสร้าง PERT และ CPM จุดประสงค์ของผู้พัฒนา คือเพื่อความสะดวกสบายในการสร้างแผนภาพ CPM และการคำนวณหาระยะเวลาของการดำเนินโครงการ
งานวิกฤต สายงานวิกฤต เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์โครงการต่อไป
ภาพที่ 1 โครงสร้างของระบบที่ศึกษาโปรแกรมช่วยสร้าง
PERT และ CPM
จากภาพที่ 1 โครงสร้างระบบงานที่ได้ศึกษาโปรแกรมช่วยสร้าง PERT และ CPM ผู้ใช้จะต้องมีการติดตั้งโปรแกรมเพื่อการใช้งาน เมื่อติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้วผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้ทันที ตัวโปรแกรมสามารถที่จะสร้างได้ทั้ง PERT และ CPM ในตัวโปรแกรมตัวเดียวกันและเมื่อผู้ใช้สร้างแผนภาพเสร็จแล้วต้องการที่จะบันทึกข้อมูลซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะจัดเก็บข้อมูลที่ได้สร้างไปรูปแบบไฟล์นามสกุล .PAC โดยข้อมูลที่บันทึกไว้สามารถนำกลับมา เพิ่มหรือแก้ไขใหม่ได้ตามต้องการของผู้ใช้
โปรแกรมช่วยสร้าง PERT และ CPM สามารถประมวลผลหาผลลัพธ์ของข้อมูลได้ดังนี้
ระยะเวลาดำเนินโครงการ
งานวิกฤต
สายงานวิกฤต
ในส่วนที่เป็นไฟล์ภาพที่เป็นนามสกุล .JPG เป็นผลลัพธ์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์โครงการได้ง่ายขึ้น แล้วในส่วนของไฟล์นามสกุล .PAC เป็นไฟล์ที่มีไว้เพื่อเปิดในโปรแกรมสำหรับเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลของโครงการ
ขั้นตอนการทำงานของระบบงาน
ภาพที่ 2 ภาพขั้นตอนการทำงานของระบบงานที่ศึกษาโปรแกรมช่วยสร้าง
PERT และ CPM
ส่วน ของ
CPM
ภาพที่ 3 ภาพขั้นตอนการทำงานของระบบงานที่ศึกษา โปรแกรมช่วยสร้าง
PERT และ CPM
ส่วนของ
PERT
จากภาพที่ 2 เป็นขั้นตอนการทำงานของระบบทั้งหมดของในส่วน CPM โดยมีขั้นตอนการใช้งาน โดยผู้ใช้จะต้องสร้างโหนด 2 โหนด ก่อนที่จะสร้างเส้นข่ายงานได้ จะมีหลักการการทำงานที่คล้ายกันกับ PERT
ส่วนภาพที่ 3 เป็นขั้นตอนการทำงานของระบบทั้งหมดของในส่วน PERT โดยมีขั้นตอนการใช้งาน โดยผู้ใช้จะต้องสร้างโหนด 2 โหนด ก่อนที่จะสร้างเส้นข่ายงานได้ จะมีหลักการการทำงานที่คล้ายกันกับ CPM ซึ่งมีส่วนที่แตกต่างกันคือ ส่วนที่ผู้ใช้ป้อนข้อมูลของระยะเวลาของงาน
จากสัญลักษณ์
ในส่วนของ CPM นั้น ระบบจะให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลของเส้นข่ายงาน ที่เป็นระยะเวลาของงานที่แน่นอนที่เป็นค่าเดียวหน่วยเป็น วัน เดือน ปี
ในส่วนของ PERT นั้น ระบบจะให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลของเส้นข่ายงาน ที่เป็นระยะเวลาของงานที่ไม่ทราบค่าที่แน่นอน โดยระบบจะประมาณเวลาของงานเป็น 3 ค่า คือ
a แทน ระยะเวลาน้อยที่สุดที่คาดว่าจะแล้วเสร็จ
b แทน ระยะเวลามากที่สุดที่คาดว่างานจะแล้วเสร็จ
m แทน ระยะเวลาทำงานที่น่าจะเป็นมากที่สุด
3. การวิเคราะห์ข้อมูลนำเข้า
1.ข้อมูลนำเข้า
2.การป้อนข้อมูล
- ชื่อโหนด ชื่อเส้นข่ายงาน ระยะเวลาของการดำเนินงาน สามารถกรอกลงในโปรแกรมได้
- โหนดและเส้นข่ายงานเป็นเครื่องมือที่มีในโปรแกรม
3.การจัดการ
4.การบันทึก
บันทึกไฟล์นามสกุลของโปรแกรมดังนี้
- ไฟล์นามสกุล .JPG หมายถึง นามสกุลไฟล์ของแผนภาพข่ายงาน
- ไฟล์นามสกุล .PAC หมายถึง ข้อมูลที่เคยบันทึกไว้แล้วสามารถนักลับมาใช้งานใหม่อีกครั้ง เพื่อเพิ่มเติมหรือแก้ไขได้
4. การวิเคราะห์ข้อมูลนำออก
- แสดงโหนดงาน ชื่อโหนดงาน เส้นข่ายงาน ชื่อและระยะเวลาของงาน
- แสดงผลลัพธ์ในการคำนวณหาระยะเวลาการดำเนินโครงการ งานวิกฤตและสายงานวิกฤต
- รายงานออกผ่านเครื่องพิมพ์โดยรายงานของโปรแกรมนั้นจะเป็นแผนภาพที่ได้ทำการออกแบบและผลของการคำนวณหาระยะเวลาของการดำเนินการของโครงการทั้งหมด
บทความที่ใหม่กว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)